วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คำศัพท์

1. VARCHAR (ย่อมาจาก Variable Character Field อ่านว่า วาร์คาร์ หรือ วาร์ชาร์) หมายถึงกลุ่มข้อมูลตัวอักขระที่ไม่สามารถระบุความยาวได้ คำนี้มักใช้เป็นชนิดข้อมูลในระบบจัดการฐานข้อมูล ชนิดข้อมูลประเภท varchar สามารถเก็บข้อมูลตัวอักขระขนาดเท่าใดก็ได้ที่ไม่เกินความยาวที่จำกัดไว้ การจำกัดความยาวก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละฐานข้อมูล
2. TINYINT : สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวเลขที่มีขนาด 8 บิต ข้อมูลประเภทนี้เราสามารถกำหนดเพิ่มเติมในส่วนของ "แอตทริบิวต์" ได้ว่าจะเลือกเป็น
3. TEXT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่สามารถเก็บได้มากขึ้น โดยสูงสุดคือ 65,535 ตัวอักษร หรือ 64KB เหมาะสำหรับเก็บข้อมูลพวกเนื้อหาต่างๆ ที่ยาวๆ
4. DATE : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ โดยเก็บได้จาก 1 มกราคม ค.ศ. 1000 ถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 โดยจะแสดงผลในรูปแบบ YYYY-MM-DD
5. SMALLINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 16 บิต จึงสามารถเก็บค่าได้ตั้งแต่ -32768 ถึง 32767 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 65535 (ในกรณี UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
6. MEDIUMINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 24 บิต นั่นก็หมายความว่าสามารถเก็บข้อมูลตัวเลขได้ตั้งแต่ -8388608 ไปจนถึง 8388607 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 16777215 (ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
7. INT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 32 บิต หรือสามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -2147483648 ไปจนถึง 2147483647 ครับ (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 4294967295 (ในกรณีที่เป็นUNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
8. BIGINT : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 64 บิต สามารถเก็บข้อมูลได้ตั้งแต่ -9223372036854775808 ไปจนถึง 9223372036854775807 เลยทีเดียว (แบบคิดเครื่องหมาย)
9. FLOAT : ที่กล่าวถึงไปทั้งหมด ในตระกูล INT นั้นจะเป็นเลขจำนวนเต็ม หากเราบันทึกข้อมูลที่มีเศษทศนิยม มันจะถูกปัดทันที ดังนั้นหากต้องการจะเก็บค่าที่เป็นเลขทศนิยม ต้องเลือกชนิดขอฟิลด์เป็น FLOAT โดยจะเก็บข้อมูลแบบ 32 บิต
10. DOUBLE : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่มีขนาดเป็น 64 บิต สามารถเก็บได้ตั้งแต่ -1.7976931348623157E+308 ถึง -2.2250738585072014E-308, 0 และ 2.2250738585072014E-308 ถึง 1.7976931348623157E+308
11. DECIMAL : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่ใช้กับข้อมูลที่ต้องการความละเอียดและถูกต้องของข้อมูลสูง
12. DATETIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลา โดยจะเก็บได้ตั้งแต่ 1 มกราคม ค.ศ. 1000 เวลา 00:00:00 ไปจนถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 เวลา 23:59:59 โดยรูปแบบการแสดงผล เวลาที่ทำการสืบค้น (query) ออกมา จะเป็น YYYY-MM-DD HH:MM:SS
13. TIMESTAMP : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลาเช่นกัน แต่จะเก็บในรูปแบบของ YYYYMMDDHHMMSS หรือ YYMMDDHHMMSS หรือ YYYYMMDD หรือ YYMMDD แล้วแต่ว่าจะระบุค่า M เป็น 14, 12, 8
14. TIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทเวลา มีค่าได้ตั้งแต่ -838:59:59 ไปจนถึง 838:59:59 โดยจะแสดงผลออกมาในรูปแบบ HH:MM:SS
15. YEAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทปี ในรูปแบบ YYYY หรือ YY แล้วแต่ว่าจะเลือก 2 หรือ 4 (หากไม่ระบุ จะถือว่าเป็น 4 หลัก) โดยหากเลือกเป็น 4 หลัก จะเก็บค่าได้ตั้งแต่ ค.ศ. 1901 ถึง 2155 แต่หากเป็น 2 หลัก จะเก็บตั้งแต่ ค.ศ. 1970 ถึง 2069
16. CHAR : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร แบบที่ถูกจำกัดความกว้างเอาไว้คือ 255 ตัวอักษร ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้เหมือนกับ VARCHAR หากทำการสืบค้นโดยเรียงตามลำดับ
17. TINYBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี ได้แก่ ไฟล์ข้อมูลต่างๆ, ไฟล์รูปภาพ, ไฟล์มัลติมีเดีย เป็นต้น คือไฟล์อะไรก็ตามที่อัพโหลดผ่านฟอร์มอัพโหลดไฟล์ในภาษา HTML โดย TINYBLOB นั้นจะมีเนื้อที่ให้เก็บข้อมูลได้ 256 ไบต์
18. TINYTEXT : ในกรณีที่ข้อความยาวๆ หรือต้องการที่จะค้นหาข้อความ โดยอาศัยฟีเจอร์ FULL TEXT SEARCH ของ MySQL เราอาจจะเลือกที่จะไม่เก็บข้อมูลลงในฟิลด์ประเภท VARCHAR ที่มีข้อจำกัดแค่ 256 ตัวอักษร แต่เราจะเก็บลงฟิลด์ประเภท TEXT แทน โดย TINYTEXT นี้ จะสามารถเก็บข้อมูลได้ 256 ตัวอักษร
19. BLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่สามารถเก็บข้อมูลได้ 64KB
20. MEDIUMBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 16MB
21. MEDIUMTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 16,777,215 ตัวอักษร
22. LONGBLOB : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี เช่นเดียวกับ TINYBLOB แต่เก็บข้อมูลได้ 4GB
23. LONGTEXT : เก็บข้อมูลประเภทตัวอักษร เช่นเดียวกับ TINYTEXT แต่เก็บข้อมูลได้ 4,294,967,295 ตัวอักษร
24. SET : สำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นกลุ่มของข้อมูลที่ยอมให้เลือกได้ 1 ค่าหรือหลายๆ ค่า ซึ่งสามารถกำหนดได้ถึง 64 ค่า
25. ENUM(Enumeration) >> หมายถึงเซตของข้อมูลชุดหนึ่งที่มีจำนวนสมาชิกที่กำหนดไว้แน่นอนและทราบค่าทุกตัว ซึ่งมักจะเป็นข้อมูลที่มีลักษณะคงที่
26. BINARY ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา
27. BOOL คือข้อมูลที่มีค่าเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False)
28. VARBINARY คือ มีลักษณะการเก็บคล้าย Varcha คือการเก็บข้อมูลตามที่รับมาจริงเท่านั้น มีขนาดสูงสุดมากถึง 8000 ไบต์

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ขั้นตอนในการติดตั้ง Appserv

D ownload เลือก appservwin 32.2.5.9
โหลด

หน้าหลัก welcome to the Appserv 2.5.9 แล้ว Next ก็จะได้ I Agree เข้ามาในหน้า choose lnstall Location แล้วเลือกไดฟ์ C/Appserv แล้วก็ Next ถ้ามาในหน้า Select components แล้วจะมีข้อให้เลือก เลือกทั้ง 4 หัวข้อ แล้วก็ Next เข้ามาในหน้า Apache Http Information Server Name ใส่ localhost และ Administrator's E-mail Address ใส่เมล์อะไรก็ได้ แล้วก็ Next เข้ามาใน Emter root password ใส่รหัสเดียวกัน และ character sets and Callations เป็น UTF -8 Unicade และ Insftall รอโหลด เข้ามาในหน้า Completing the Appserv 2.5.9 Sctup wizard แล้วก็ Finish เสร็จการติดตั้ง ค่ะ

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

คำศัพท์

1.Database ชุดของข้อมูลที่รวมเอาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกันเป็นเรื่องราวเดียวกันรวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นชุดข้อมูล
2.DBMS (data base management system) ซอฟต์แวร์ที่ใช้จัดการฐานข้อมูล ช่วยในการสร้างข้อมูล เพิ่มข้อมูล ลบข้อมูล เรียกใช้ข้อมูล
3.Database Administrators : DBAs บุคลากรที่ทำหน้าที่บริการและควบคุมการบริหารงานของระบบฐานข้อมูล ทั้งหมดเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะรวบรวมข้อมูลอะไรเข้าในระบบ จัดเก็บโดยวิธีใด เทคนิคการเรียกใช้ข้อมูล
4.Database Developmentโปรแกรมสำเร็จรูปจัดการฐานข้อมูล เช่น Microsoft Access หรือ Lotus Approach อนุญาตให้ผู้ใช้พัฒนาฐานข้อมูลตามที่ต้องการได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามระบบผู้รับบริการและผู้ให้บริการ
5.Data Definition Language : DDL เป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล (Database Schema) ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา (Schema)
6.Data Interrogationความสามารถในการสืบค้นฐานข้อมูลเป็นผลประโยชน์หลักของระบบจัดการฐานข้อมูล ผู้ใช้สามารถใช้ระบบจัดการฐานข้อมูลสำหรับการขอสารสนเทศจากฐานข้อมูล โดยการใช้ภาษาสอบถาม
7.Graphical and Natural Queriesผู้ใช้ ( และผู้เชี่ยวชาญสารสนเทศ) หลายรายลำบากที่จะแก้ไขวลีของ SQL และคำถามภาษาฐานข้อมูลอื่นๆ ดังนั้นโปรแกรมสำเร็จรูปฐานข้อมูลส่วนใหญ่จึงเสนอวิธีการชี้และคลิกส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (Graphical User Interface : GUI) ซึ่งง่ายต่อการใช้และใช้ซอฟต์แวร์8.Application Developmentโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูลมีบทบาทหลักในการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สามารถใช้ภาษาโปรแกรมยุคที่สี่ (4GL Programming Language) และสร้างเครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์จากโปรแกรมสำเร็จรูประบบจัดการฐานข้อมูล
9.Data Manipulation Language : DML เป็นภาษาที่ใช้กำหนดโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลของฐานข้อมูล (Database Schema) ซึ่งโครงสร้างข้อมูลหรือนิยามข้อมูลสามารถเรียกได้อีกอย่างว่า สกีมา10.Subject Area Database : SADB ฐานข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลง
11.Analytical Databaseเก็บข้อมูลและสารสนเทศที่ดึงมาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการและฐานข้อมูลภายนอก ประกอบด้วยข้อมูลสรุปและสารสนเทศที่จำเป็นต่อผู้จัดการองค์กรและผู้ใช้
12.Multidimensional Database ให้การสนับสนุนสำหรับฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาก
13.Data Warehouses เก็บข้อมูลปัจจุบันและปีก่อนๆ โดยดึงจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการต่างๆ ขององค์กร เป็นแหล่งข้อมูลส่วนกลางที่ได้ถูกคัดเลือก แก้ไข จัดมาตรฐาน และรวบรวมเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ การวิจัยตลาด และสนับสนุนการตัดสินใจ คลังข้อมูลอาจแบ่งออกเป็นตลาดข้อมูล
14.Distributed Databasesการกระจายสำเนา (Copies) หรือบางส่วนของฐานข้อมูลไปยังแม่ข่ายเครือข่ายหลายๆ สถานที่ ฐานข้อมูลแบบกระจายนี้สามารถติดตั้งอยู่บนเครื่องแม่ข่ายเครือข่าย World Wide Web บนอินทราเน็ตขององค์กร หรือเอ็กซ์ทราเน็ต ฐานข้อมูลแบบกระจายอาจจะสำเนาจากฐานข้อมูลเชิงปฏิบัติการหรือฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์
15.End User Databasesประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่พัฒนาโดยผู้ใช้ที่สถานีปลายทาง เช่น ผู้ใช้อาจจะมีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์หลายๆ สำเนาที่ได้ดาวน์โหลดจาก World Wide Web จากโปรแกรมสำเร็จรูปประมวลผลคำ หรือรับจากไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
16.Field) เป็นหน่วยข้อมูลที่ประกอบมาจากอักขระต่าง ๆ หลายอักขฟระ เช่น ชื่อ ที่อยู่ ที่ประกอบด้วยอักขระหลาย ๆ ตัว เป็นต้น
17.Record) จะเป็นการนำฟิลด์หลาย ๆ ฟิลด์มาร่วมกัน เช่น เรคอร์ดลฟูกค้า ก็จะเก็บฟิลด์ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดที่ประกอบด้วยชื่อ ที่อยู่ หรือ หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
18.Table) จะเป็นการนำเรคอร์ดหลาย ๆ เรคอร์ดมารวมกัน เช่น ตารางลูกค้า จะประกอบด้วยเรอร์ดของลูกค้าที่เป็นลูกค้าแต่ละราย
19.Entity) เป็นคำที่อ้างอิงถึง บุคคล สถานที่ และสิ่งของต่าง ๆ เช่น สินค้า ใบสั่งซื้อ และลูกค้า เป็นต้น ถ้าเราสนใจในการสร้างระบบฐานข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า เอนทิตี้ของระบบ นี้จะประกอบด้วย เอนทิตี้ลูกค้า ใบสั่งซื้อสินค้า และสินค้าInfraStucture Management คือการจัดทำระบบการบริหารงานคุณภาพ โครงสร้างพื้นฐาน การควบคุมคุณภาพ

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

คำศัพท์ 50 คำ

  • 1.Chances = เฉ็ง โอกาส
    2.Basically = เบซิคคอรี่ โดยทั่วไป
    3.Writes = วิส เขียน
    4.Floppy disk = คลอปปี้ดิส ฟล็อปปี้ดิสก์
    5.Flexible = เฟกสิเบิ้ล ยืดหยุ่น
    6.Through = ทรอง ผ่านไป
    7.Compared = คอมเพลส เปรียบเทียบ
    8.Diskette = กิสเกตต์ กิสเกตต์
    9.Recording = รีคราวดิ้ง การบันทึก
    10.Improvements = อิมพูพเม้น การปรับปรุง
    11.Capacity = คาปาสิตี้ กำลังผลิต
    12.Unlike = อันไร ไม่เหมือนกัน
    13.Easily = อีซิตี้ ง่ายได้
    14.Fallen = เฟวเอท ลดลง
    15.Access = แอคเซท เข้าถึง
    16.Lnaterial = ลาเทอเรว เนื้อหา
    17.Both = โบว ทั้งสอง
    18.Times = ทาม ครั้ง
    19.Beginning = บีกินนิ่ง จุดเริ่มต้น
    20.Minute = มิ้นทั่ว นาที
    21.However = ฮาวเออ อย่างไร
    22.Located = โลเทส ตั้งอยู่
    23.Opposite = ออฟโฟไซ ตรงข้าม
    24.Same = เซม เหมือนเดิม
    25.Button = บอตท่อม ปุ่ม
    26.Presence = พี่เซ็น ต่อหน้า
    27.Prevent = พี่เว้น ป้องกัน
    28.Pattern = แพตเทน แบบแผน
    29.Slower = ซะโลเวอร์ ช้าลง
    30.Between = บีทวีน ระหว่าง
    31.Normal = นอมอล ปกติ
    32.Simple = ซิมเปิ้ล เรียบง่าย
    33.Problem = พรอบเบ็ม ปัญหา
    34.Troubleshoot = โทรเบอศสูท แก้ไขปัญหา
    35.Grinding = แกนดิ้ง บด
    36.Mechanism = แมตชีน กลไก
    37.Destroy = ดิสทั่ว ทำลาย
    38.Incredibly = อินเคอดีบี้ เหลือเชื่อ
    39.Created = คราเทส การสร้าง
    40.Happens = แฮฟเพ้น ที่เกิดขึ้น
    41.Learn = เลิน เรียนรู้
    42.Magnetic = แมทนิก แม่เหล็ก
    43.Precise = พี่ซรี แม่นยำ
    44.Delete = ดีริส ลบ
    45.Crashes = ชีน เกิดปัญหา
    46.Means = มีน วิธี
    47.Networked = เน็ตเวิกเอท เครือข่าย
    48.Personal = เพอซึนอล ส่วนบุคคล
    49.Moving = มูบวิ่ง เคลื่อนไหว
    50.Because = บีคลอส เพระว่า

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แบบฝึกหัดบทที่ 4,5,6

แบบฝึกหัด บทที่4

10. ให้นักศึกษาบอกข้อดีของ Adobe photoshop CS3 พร้อมอธิบาย
ตอบ ในโปรแกรม Adobe photshop CS3 มีข้อดีหลายอย่าง เช่น เมนู single column Toolbar เมนูนี้เปลี่ยนไปจากเวอร์ชั่นเดิมที่มีสองแถว แต่พอมาถึงเวอร์ชั่น CS3
มีเพียงแค่แถวเดียวเพื่อประหยัดพื้นที่ , เมนู camera raw นั้นคือฟีเจอร์ในการตกแต่งภาพจากกล้องดิจิตอลและยังคงรักษาคุณภาพของภาพได้ 100% และเครื่องมือ Quick selection Tool เป็นเครื่องมือที่ดี ใช้งานง่ายและทำงานได้เป็นอย่างดี
สรุป การทำงานของโปรแกรม Adobe photshop CS3 สะดวกในการหาเครื่องมือ และง่ายสำหรับการใช้งาน

11. ให้นักศึกษาหาความหมายของเครื่องมือใน Adobe photshop CS3 พร้อมอธิบาย
ตอบ
1. Move Tool ใช้ในการเลื่อน Layer และ Guide ต่างๆ
2. Marquee Toolใช้ในการเลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้า วงกลม และอื่นๆ
3. Lasso Tool ใช้ในการเลือกแบบอิสระ
4. Magic Wand Tool ใช้ในการเลือกโดยอาศัยความสว่างและโทนสี
5. Crop Tool ใช้ในการเลือกบางส่วนของรูปภาพ
6. Slice Tool ใช้ในการ Slice หรือรูปย่อยๆ
7. Healing Brush Toolใช้ในการระบายสี ซ่อมแซมรูปภาพให้สมบูรณ์
8. Brush Toolใช้ในการวาดเส้น
9. Clone Stamp Tool ใช้ในการคัดลอกรูปโดยอาศัยรูปต้นฉบับ
10. History Brush Tool ใช้ในการกลับคืนรูปภาพเดิมจาก State ของรูปเดียว
11. Eraser Toolใช้ในการลบรูปภาพหรือลบบางส่วน
12. Paint Bucket Tool ใช้ในการเติมสี Fill ในบริเวณที่เป็นสีเดียวกัน
13. Smudge Toolใช้ในการดึงสีให้ไปใกล้เคียงกัน
14. Burn Toolใช้ลดความสว่าง ทำให้ภาพดูมืดลง
15. Pen Toolsใช้ในการลากเส้น path ซึ่งสามารถดัดโค้งตามรูปภาพได้
16. Type Tool ใช้ในการพิมพ์ตัวอักษร
17. Path Selection Pathใช้เพื่อเลือก Shape หรือ Path เพื่อแสดง Anchor paint
18. Custom Shape Toolใช้ในการเลือกรูปภาพ เลือกรูปที่มีรูปร่างเฉพาะ
19. Animations Toolใช้เขียนโน้ต หรือแนบเสียงไปกับรูป
20. Eyedropper Toolใช้ในการดูดสีจากรูปภาพเพื่อใช้เป็นต้นแบบของสีกับงานชิ้นอื่นๆ
21. Hand Tool ใช้เลื่อนภาพที่อยู่หน้าต่างเดียวกัน
22. Zoom Tool ใช้ย่อ-ขยายภาพ

แบบฝึกหัด บทที่5

1.ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างปุ่มและอักษร 3 มิติ
ตอบ สร้างไฟล์โดยไปที่ Flie -- new—แล้วเลือกความกว้าง ความสูง และความละเอียดและเลือกชนิดเป็น RGB color พื้นเป็น white แล้วคลิก ok , ไปที่เครื่องมือ Gradient Tool เลือกรายละเอียดรูปแบบการแสดงผลแล้วไล่เฉดสี จากนั้นแดรกเมาส์จากซ้ายไปขวา , ไปคลิกปุ่มเพื่อพิมพ์ตัวอักษรและย้ายข้อความไว้ตรงกลาง
ขั้นตอนการทำเป็น 3 มิติ Layer-Type-Convert to shope จะปรากฏกกรอบข้อความจากนั้นไปที่เมนู Edit-Transform-perspective จากนั้นแดรกเมาส์ปรับเปลี่ยนตามรูปทรงที่ต้องการ ทำอักษรให้มีความนูน Layer-Layer style-bevel and Emboss เสร็จกด ok

2.ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรลำแสง
ตอบ สร้างไฟล์เปล่า กำหนดความกว้าง ความสูง และความละเอียด จากนั้นเลือกพิมพ์ตัวอักษร พิมพ์เสร็จกดคีย์บอร์ด (ctrl+j) เพื่อ Duplicata Layers จากนั้น copy ให้เป็นสีดำทำการซ่อน layers layer ข้อความที่เราพิมพ์ต้อง copy จากนั้นคลิกรวมเลเยอร์ Backhround และlayers ข้อความที่พิมพืไว้ copy (ctrl+e) รวมเลเยอร์
ไปที่เมนู Filter – stylize – wind เลือก(/)wind และ (/) From the Right (เลเยอร์ที่คลิกอยู่ที่ Background) กดคีย์บอร์ด ( ctrl+j) เพื่อ Duplicata Layers ไปที่เมนู Filter – stylize wind แล้วเลือก(/)
Wind และ(/) From the Left (เลเยอร์คลิกอยู่ที่ Background copy ) เป็นอันเสร็จสิ้นการทำหัวแบบลำแสง 2ด้าน

3. ให้นักศึกษาอธิบายความหมายของเครื่องมือต่อไปนี้
.
ตอบ
1. เป็นเชื่อมระหว่าง Layer
2.เป็นส่วนที่ใส่ Effecf เช่น แสง เงา3.เป็นส่วนที่เพิ่มเติม Mak หรือ เพิ่ม Layer4.เป็นส่วนที่ใช่ปรัค่าแสงความสว่าง ปรับค่าสี ความคมชัด5.เป็นส่วนที่สร้าง Fonder สำหรับเก็บ Layer6.เป็นเครื่องหมายการสร้าง Layer ขึ้นมาใหม่7.เป็นปุ่มที่ใช่ลบ Layer ที่ไม่ต้องการ


แบบฝึกหัด บทที่ 6

13. ให้นักศึกษาอธิบายความหมายของส่วนต่างและปุ่มต่างๆ
ตอบ 1. คือ เฟรม ที่ใช้แสดงลำดับภาพนิ่งแต่ละส่วน
2. คือ ตัวกำหนดเวลาในการแสดงผล(ยิ่งน้อย ยิ่งดูคลาสิก)
3. คือ ปุ่มควบคุมการวนซ้ำ ถ้า forever คือวนรอบไปเรื่อยๆ ถ้าวนรอบ 1 รอบใช้ Once
4. คือ ปุ่มควบคุม ที่ใช้แสดงตัวอย่างภาพ Animation หรือจะกระโดดไปที่เฟรมอื่นๆ ตามที่
ต้องการก็ได้
5. คือ ปุ่มสร้างภาพ Animation อย่างต่อเนื่องที่โปรแกรมคำนวณเฟรมอยู่ระหว่างเฟรมเริ่มต้น
และเฟรมสุดท้าย
6. คือ ปุ่มสร้างเฟรมใหม่ ซึ่งจะใช้เมื่อต้องการสร้างรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่ๆ เข้าไป
7. ปุ่มลบเฟรม เอาไว้ลบเฟรมที่ไม่ต้องการทิ้งไป

14. ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรเคลื่อนไหวแบบ Fade
ตอบ

1. เปิดไฟล์ภาพขึ้นมาโดยไปที่เมนู File---Open---จากนั้นไปเลือกชื่อไฟล์ที่ต้องการเปิกและ
คลิก Open
2. กำหนดขนาดของภาพให้มีความกว้าง 444 Pixels จากนั้นไปเปิดไฟล์อื่นออกมาอีก 3 ไฟล์
และคัดลอกมาไว้ที่ไฟล์นี้
3. ไปเปิดที่เมนู Windows --- Animation และทำการ Duplicates Select Frames ขึ้นมาอีก 3 เฟรม
4. กด <> เพื่อเลือก frames ทั้งหมดจากนั้นตั้งเวลาโดยไปคลิกที่ปุ่มเฟรมสุดท้าย
5. จากนั้นคลิกที่เฟรมที่ 1 และคลิกเลยอร์ให้แสดงเฉพาะอันแรก
6. เฟรมที่ 2 ให้คลิกเลือกเลเยอร์แรกกับเลเยอร์ที่ 2 (เฟรมที่3 และ 4 ทำเหมือนกัน)
7. กำหนดเฟรมที่ 1 เพื่อจะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 1 จากนั้นไปที่เครื่องมือ
Tweens Animation Frames เพื่อกำหนดให้แสดงผลและกำหนดจำนวนเฟรมเพิ่มอีก 7
เฟรม แล้วกด ok (การกำหนดจำนวนเฟรมยิ่งมาก ยิ่งทำให้การแสดงผลค่อยๆ แสดงผล)
8. กำหนดเฟรมที่ 2 เพื่อที่จะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 2 จากนั้นไปที่เครื่องมือ
Tweens Animation Frames เพื่อกำหนดให้แสดงผลและกำหนดจำนวนเฟรมเพิ่มอีก 4
เฟรม และตอบ ok (การกำหนดจำนวนเฟรมน้อย จะทำให้การแสดงผลเร็วขึ้น)
9.กำหนดเฟรมที่ 3 เพื่อจะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 3 จากนั้นไปที่เครื่องมือ
Tweens Animation Frames เพื่อกำหนดให้แสดงผลและกำหนดจำนวนเฟรมเพิ่มอีก 9
ตอบ ok (การกำหนดจำนวนเฟรมมาก จะทำให้การแสดงผลช้าขึ้น)
10. กำหนดเฟรมที่ 4 เพื่อจะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 4 จากนั้นไปที่เครื่องมือ
Tweens Animation Frames เพื่อกำหนดให้แสดงผลและกำหนดจำนวนเฟรมเพิ่มอีก 3
ตอบ ok (การกำหนดจำนวนเฟรมมาก จะทำให้การแสดงผลช้าขึ้น


15. ให้นักศึกษาอธิบายวีการสร้างการสร้าง Gallery ภาพถ่ายให้กับเว็บไซด์
ตอบ

1. สร้างโฟลเดอร์ไว้สำหรับเก็บไฟล์ที่ต้องการ
2. สร้างโฟลเดอร์ 400 pixels * 300 pixels แล้วเก็บไว้ในโฟลเดอร์ดังกล่าว
3. ไปที่เมนู File –Automate---Wed Photo Gallery…จะปรากฏหน้าจอ
4. เลือกรูปแบบหรือสไตล์ที่ชอบ (ซึ่งจะปรากฏตัวอย่างให้ดู) คลิกเลือกปุ่มโฟลเดอร์แหล่งของภาพไว้ (ข้อ1) คลิกเลือกเส้นทางที่จะเก็บที่สร้าง Gallery (จะต้องไม่ซ้ำกับโฟลเดอร์แหล่งภาพ) เลือก คุณสมบัติของของภาพ แล้วตอบ ok

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วิธีการทำส่วนหัวข้อตัวอักษรลำแสง


การทำส่วนหัวด้วยตัวอักษรลำแสง
1.สร้างไฟล์ใหม่ ขนาด 500 pixls* 350 pixels และความละเอียด 100 pixels/lnch และพื้นเป็นสีขาว


2.เลือกเครื่องมือ paint Too เทสีดำลงในเลเยอร์ Background และไปที่เครื่องมือ Type Tools เลือกฟอนต์ Arial ตัวหนาขนาด 29 pt สีขาว แล้วพิมพ์ข้อความว่า KITTKGAN ด้งภาพข้างลาง


3.กดคีย์บอร์ด (Ctrl+J) เพื่อ Duplicate Layers จากนั้นเปลี่ยนสีตัวอักษรที่ layers kittkhan copy ให้ เป็นสีดำ ทำการซ่อน layers layer kittkhan copy จากนั้นคลิกรวมเลเยอร์ Background และ
layers kittkhan copy (Ctrl+Eรวมเลเยอร์)


4.ไปที่เมนู Filter ----Stylize-----Wind แล้วเลือก (/) From the Right (เลเยอร์คลิกอยู่ที่ Background)

5.กดคีย์บอร์ด (Ctr+J) เพื่อ (Duplicate Layers copy) ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการทำหัวข้อแบบลำแสงกระจาย
ทั้งสองด้าน

ในกรณีจะนำรูปภาพมาใส่เพื่อให้เกิดเป็นองค์ประกอบในการออกแบบ ย่อ-ขยายภาพให้เกิดความสมดุลในการออกแบบพร้อมกับหมุนภาพให้ดูมีศิลปะ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้


1.เปิดไฟล์ภาพที่มีรูปภาพที่เราต้องการมาอีก 1 ไฟล์โดยไปที่เมนู File----Open จากนั้นเลือกเส้นทางที่มีไฟล์ภาพ ชื่อไฟล์ที่เราต้องการ และตอบ OK แล้วเลือกเครื่องมือ Rectangular tool จากนั้นไปคลิกรูปสี่เหลี่ยม (เส้นปะ) เพื่อเลือกพื้นที่ที่ต้องการ เมื่อเลือกเสร็จ กดคีย์บอร์ด (Ctrl+C) เพื่อทำการคัดลอกพื้นที่ที่เลือก


2.ไปคลิกเมาส์ที่ไฟล์รูปแบรนเนอร์ แล้วกด (Ctrl+V) เพื่อวางรูปภาพไว้บนส่วนที่ต้องการ เมื่อต้องการย้ายรูปภาพก็ไปที่เครื่องมือ Move Tool แล้วไปแดรกเมาส์ ลากไปไว้ยังที่ ๆ ต้องการจากนั้นเมื่อต้องการย่อภาพให้สมดุล Edit--Transform----Scale


3.เมื่อได้ขนาดทีต้องการแล้ เราต้องการหมุนภาพให้สวยงามไปที่เมนู Edit---Transform--Rotate แล้วนำเมาส์ไปที่มุมภาพ หมุนตามที่ต้องการ (เมื่อหมุนเสร็จให้กด Enter เพื่อสั่งให้ทำงาน)



การแบ่งภาพเป็ยชิ้นเล็ก เพื่อลดขนาดของไฟล์


1.เปิดไฟล์ภาพที่ต้องการแบ่งออกมา File---Open---เลือกชื่อไฟล์----OK


2.ไปที่เครื่องมือ Slice Tool จากนั้นดูรายละเอียดเครื่องมือ Fic size (กำหนดความก้วาง 64 px และความสูง 125 px คงที่


3.นำเมาส์ไปแดรกที่ภาพ จะปรากฏดังภาพข้างล่าง กรณีจะทำภาพต่อไปนี้ให้นำเมาส์ไปแดรกที่มุนบนด้านขวาดังภาพ แล้วคลิกแดรกที่มุนบนไปเรื่อยๆ


4.เก็บบันทึกข้อมูลไปที่เมนู File---Save for Web and Device จากนั้นเลือกรูปแบบเป็น JPEG และคลิกปุ่ม Save

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552

การติดตั้งการติดตั้งโปรแกรม Adobe PhotoshopCS3
1. ไปที่ Internet Explorer Browser จากนั้นก็พิมพ์ ข้อความต่อไปนี้ ที่ Address : http://kittk.kvc.ac.th/donload/PhotoshopCS3.zip

2. โปรแกรมจะถามว่า จะบันทึกที่ไหน ให้คลิก Save ที่ไดรฟ์ C แล้วโปรแกรมจะทําการคัดลอกไฟล์ต้นฉบับมาไว้ที่ไดรฟ์ C

3. เมื่อ download ไฟล์มาเสร็จ ให้ทําการ UnZip ไฟล์ ก็จะได้ไฟล์ Setup เพื่อดําเนินการติดตั้งให้ดับเบิ้ลคลิ๊กไฟล์ดังกล่าว ซึ่งจะปรากฏดังภาพข่างล่าง (กรณีที่เปิดใช้โปรแกรมอื่นอยู่ โปรแกรมจะแจ้งเตือนให้ปิดก่อน) จากนั้นให้คลิกที่ปุ่ม Try Again เพื่อลองใหม่อีกครั้ง

4.โปรแกรมจะถามว่า จะยอมรับลิขสิทธิ์ และเงื่อนไขต่าง ๆ ตามที่ตกลงหรือไม่ (ตอบ Accept ยอมรับ)

5.โปรแกรมจะถามเส้นทาง หรือ แหล่งที่จะติดตั้งโปรแกรม (ไดรฟ์ต่าง ๆ ให้เลือกไดรฟ์ C) จากนั้นคลิก Next เพื่อทํางานต่อไป

6. โปรแกรมจะเริ่มทําการติดตั้ง คัดลอกไฟล์ต่าง ๆ ลงบนไดรฟ์ C (ไดรฟ์ที่เราเลือกเพื่อติดตั้ง)

7. เมื่อติดตั้งเสร็จ (ไม่มีปัญหา) โปรแกรมจะแจ้งว่า Installation Completed ซึ่งแปลว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

8. คลิ๊กปุ่ม Finnish ซึ่งหมายถึงเสร็จสิ้นขั้นตอนการติดตั้ง จากนั้นเมื่อเลือกใช้โปรแกรม ๆ จะทําการถามว่า จะใส่รหัสโปรแกรม (Serial Number) ซึ่งปกติจะมีมากับแผ่นโปรแกรมฯ โดยให้ใส่เข้าไปในช่องสี่เหลี่ยมแล้วคลิก Next เพื่อทํางานต่อไป

9. โปรแกรมจะถามเพื่อให้ทําการลงทะเบียนเพื่อ update และรับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของโปรแกรมฯ ถ้าเราลงทะเบียนก็ให้คลิกใส่ข้อมูลทุกช่อง แล้วคลิกปุ่ม Register Now (ในที่นี้เราไม่ลงทะเบียนให้คลิกปุ่ม Register later)

10. เข้าสู่หน้าจอสุดท้าย ซึ่งเราเลือก Do not register (หมายถึงไม่ลงทะเบียน) แล้วก็คลิกปุ่ม Continue ก็จะเป็นอันเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม Adobe PhotoshopCS3

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วิธีการถอนnod32 และ วิธีการติดตั้งnod 32

วีธีการถอนnod32

วิธีการติดตั้ง ESET NOD32 Antivirus 4.0.68 32
1.ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ eav_nt32_enu.
2.คลิก Next
3.เลือก I accept ...... คลิก Next
4.เลือก Typical... คลิก Next
5. Username และ Password ไม่ต้องเปลี่ยน ให้คลิก Next เลย
6. คลิก Next
7.เลือก Enable detection คลิก Next
8.คลิก Install
9.คลิก Finsh

** หลังจากนั้นรอโปรแกรมทำงาน สัก 1 - 2 นาที มันจะอัพเดทฐานข้อมูล
ถ้าโปรแกรมไม่ยอมอัพเดทฐานข้อมูล ให้ศึกษาวิธีการ Crack จากขั้นตอนการติดตั้งที่ไฟล์ .PDF ครับ

DOWNLOAD Eset NOD32 Antivirus v.4.0.68
แก้ให้ละอันนี้ดีสุด
http://www.ibuddylink.com/software/y09m04at003.html
สำรอง
http://www.ibuddylink.com/software/y09m04at0032.html
สำรอง
http://www.ibuddylink.com/software/y09m04at0032.html

ถ้าท่านติดตั้ง Nod 32 v.3 อยู่ ให้ Disable หรือถอนการติดตั้งก่อนครับ เพราะมันจะมองเห็น Nodlogin เป็นไวรัส
แต่ไม่ใช่ไวรัสนะ มันเป็นตัวคอนเน็ค Server ของ Nod 32 ศึกษาวิธีแก้ไขได้ในขั้นตอนการติดตั้ง ใน ไฟล์ PDF และก่อนติดตั้ง v.4 ควร Remove v.3 ก่อน

วิธีการติดตั้งnod32

ป้องกันไวรัส กับ NOD32 4.0.318+ วิธีอัพเดทและติดตั้งด้านใน
ESET NOD32 Antivirus 4.0.318 :โปรแกรมป้องกันไวรัสแบบ Real-Time NOD32… ซึ่งได้รับความนิยม ซึ่งอาจจะเป็นเพราะตัวซอฟแวเองมีขนาดเล็ก และ ไม่กินแรงเครื่อง และยังป้แงกันไวรัสแบบ Real-Time ป้องกันไวรัส หนอน ม้าโทรจัน สปายแวร์ และอื่่นๆ ในเครื่องคุณ หากว่าซ้ำยังงัยก็ขออภัยด้วย
วิธีการติดตั้ง ESET NOD32 Antivirus 4.0.318
1.ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ eav_nt32_enu.
2.คลิก Next
3.เลือก I accept ...... คลิก Next
4.เลือก Typical... คลิก Next
5. Username และ Password ไม่ต้องเปลี่ยน ให้คลิก Next เลย
6. คลิก Next
7.เลือก Enable detection คลิก Next
8.คลิก Install
9.คลิก Finsh

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

การติดตั้ง Windows XP Pro

การลง windows ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นเป็นการติดตั้งระบบปฏิบัติการให้กับเครื่องใหม่ทั้งหมดสำหรับเครื่อง
ที่ซื้อมาใหม่ก็อาจไม่มีปัญหาอะไรเพียงแต่ทำการแบ่งพาร์ทิชั่น และ Format ให้กับฮาร์ดดิสก่อน แต่สำหรับเครื่องที่มีข้อมูล
หรือโปรแกรมที่สำคัญ ผมว่าควรก๊อปปิ้ข้อมูลไปเก็บในที่ปลอดภัยก่อนนะครับ กันพลาด

วิธีการติดตั้งผู้จัดขอแนะนำวิธีที่ลงโปรแกรมจากไดร์ฟ CD-ROM (ให้เครื่องทำการ Boot จากแผ่น CD-ROM)
เริ่มต้น โดยการเซ็ตให้บูตเครื่องจาก CD-Rom Drive ก่อน โดยการเข้าไปปรับตั้งค่าใน bios ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดย
เลือกลำดับการบูต ให้เลือก CD-Rom Drive เป็นตัวแรกครับ (ถ้าหากเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร)


ทำการปรับเครื่อง เพื่อให้บูตจาก CD-Rom ก่อน จากนั้นก็บูตเครื่องจากแผ่นซีดี Windows XP Setup โดยเมื่อ
บูตเครื่องมา จะมีข้อความให้กดปุ่มอะไรก็ได้ เพื่อบูตจากซีดีครับ ก็เคาะ Enter ไปทีนึงก่อน


โปรแกรมจะทำการตรวจสอบและเช็คข้อมูลอยู่พักนึง รอจนขึ้นหน้าจอถัดไปครับ



เข้ามาสู่หน้า Welcome to Setup กดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป



ให้เราทำการกดปุ่มคีย์บอร์ด F8 เพื่อทำงานต่อไป



ขั้นตอนนี้โปรแกรมจะให้เราเลือกไดร์ฟที่จะติดตั้งตัว Windows ครับ (ส่วนใหญ่จะติดตั้งที่ไดร์ฟ C:) แล้วกดปุ่ม
Enter เพื่อทำงานขั้นต่อไป



เลือกชนิดของระบบ FAT ที่จะใช้งานกับ Windows XP หากต้องการใช้ระบบ NTFS ก็เลือกที่ข้อบน แต่ถ้าจะใช้
เป็น FAT32 หรือของเดิม ก็เลือกข้อสุดท้ายได้เลย (no changes) ถ้าไม่อยากวุ่นวาย แนะนำให้เลือก FAT32 นะครับ แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป



เริ่มต้นการติดตั้งโปรแกรมให้เรา รอสักครู่ ครับ



หลังจากนั้น โปรแกรมจะทำการ Restart เครื่องใหม่อีกครั้ง (ให้ใส่แผ่นซีดีไว้ในเครื่องแบบนั้น แต่ไม่ต้องกดปุ่ม
ใด ๆ เมื่อบูตเครื่องใหม่ ปล่อยให้โปรแกรมทำงานไปเองได้เลยครับ)


เมื่อเครื่องทำการ Restart แล้วจะปรากฎหน้าตาของ Windows XP แล้วครับ รอสักครู่



โปรแกรมจะทำการติดตั้งละเอียดต่าง ๆ ขั้นตอนนี้ใช้พอสมควรครับ



จะมีเมนูของการให้เลือก Regional and Language ให้กดปุ่ม Next ไปเลยครับ ยังไม่ต้องตั้งค่าอะไรในช่วงนี้
แล้วกดปุ่ม Next ครับ



ขั้นตอนนี้ให้เราใส่ชื่อ และชื่อบริษัท แต่ไม่จำเป็นจะใส่อะไรก็ได้ แล้วกดปุ่ม Next ครับ



ขั้นตอนนี้ให้เราทำการใส่ Product Key หรือที่เราเรียกกันว่า CD Key ที่ให้มากับแผ่นครับ แล้วกดปุ่ม Next ครับ



หน้าจอให้ใส่ Password ของ Admin ให้ปล่อยว่าง ๆ ไว้แบบนี้แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป



เลือก Time Zone ให้เป็นของไทย (GMT+07:00) Bangkok, Hanoi, Jakarta แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำ
การติดตั้งต่อไป



ขั้นตอนนี้ต้องรอนานนิดนึงครับ โปรแกรมจะทำการอ่าน และตั้งค่าต่าง ๆ พอเสร็จแล้วเครื่องจะทำการ Restart อีก
ครั้งจากนั้นก็จะเข้าสู่หน้าจอ Windows XP ครับ


เริ่มต้นบูตเครื่อง เข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP แล้วครับ



ในครั้งแรก อาจจะมีการถามเรื่องของขนาดหน้าจอที่ใช้งาน กด OK เพื่อให้ระบบตั้งขนาดหน้าจอให้เราได้เลยครับ
นอกจากนี้ ถ้าหากเครื่องไหนมีการถาม การติดตั้งค่าต่าง ๆ ก็กดเลือกที่ Next หรือ Later ไปก่อน บางครั้งอาจจะมีให้เราทำ
การสร้าง Username อย่างน้อย 1 ชื่อก่อนเข้าใช้งาน ก็ใส่ชื่อของคุณเข้าไปได้เลย



เข้าสู่ Windows XP

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ประวัติส่วนตัว รัตนา ม่องคำหมื่น

ชื่อ นางสาวรัตนา ม่องคำหมื่น


ชื่อเล่น เก๋


เกิดวันเสาร์ ที่ 14 เดือน เมษายน พ.ศ. 2534


ที่อยู่ 84 ม. 18 บ้านหนองปิง ต. สาวะถี อ. เมือง จ. ขอนแก่น 40000


ราคี เมษ ปีมะเมีย


tel: 0834137964




ประวัติการศึกษา


จบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้านหนองปิง


จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนนครขอนแก่น


จบระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น


ปัจจุบันกำลังศึกษาที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ


บิดาชื่อ นายโฆษิต ม่องคำหมื่น อายุ 41 อาชีพ รับจ้างทั่วไป/ทำนา


มารดาชื่อ นางเนตรดาว ม่องคำหมื่น อายุ 38 อาชีพ รับจ้างทั่วไป/ทำนา


ดาราที่ชื่อชอบ แพนเค้ก (ที่สุด)


สีที่ชื่นชอบ ดำ/ขาว


อาหารที่ชอบ ราดหน้า


งานอดิเรก เล่นเกม/ดูหนัง


ความใฝ่ฝันอยากเปิดร้านอาหารเป็นของตนเอง


คติประจำใจ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้ววันพรุ่งนี้จะดีเอง


สถานที่ที่ชอบเที่ยว น้ำตก